ดูไบ...เมืองแห่งความมหัศจรรย์![]() ![]()
![]() ![]() ![]() ![]()
หมู่เกาะต้นปาล์ม
หมู่เกาะต้นปาล์ม เป็นโครงการก่อสร้างเกาะจำลองบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ในดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยแต่ละเกาะจะมีลักษณะรูปร่างเหมือนต้นปาล์มและล้อมรอบด้วยเสี้ยววงกลม โดยพื้นที่จะมีการจัดเป็นที่อยู่อาศัยและรีสอร์ท การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศในโครงการจะมีการสร้างทั้งหมด 3 เกาะได้แก่ ปาล์ม Jumeirah, ปาล์ม Deiraและ ปาล์ม Jebel Ali ![]() อาคารเบิร์จดูไบ
เบิร์จดูไบ (ภาษาอาหรับ: برج دبي , Burj Dubai - หอคอยดูไบ)เป็นตึกระฟ้าสูงยวดยิ่ง ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในย่านกลางเมืองดูไบและเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะถูกจัดเป็นอาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกกำหนดให้เข้าใช้งานได้ในต้นปี พ.ศ. 2552 ณ โดยจะสร้างให้มีความสูงประมาณ818 เมตร ในดูไบยังมีโครงการก่อสร้างตึกในชื่อว่า อัลเบิร์จที่กำลังอยู่ในระหว่างการออกแบบและวางแผนโดยความสูงยังคงถูกเก็บเป็นความลับเช่นกันโดยประมาณการว่าอาจจะสูงอย่างน้อย 800 เมตร การตกแต่งภายในจะบ่างออกเป็นโรงแรมอาร์มานี 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง108 จะเป็น อพาร์ตเมนต์ โดยที่เหลือจะเป็นออฟฟิศสำนักงาน และชั้นที่ 123และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึก ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสารนอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่และตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก ที่ความเร็ว 18 ม/วินาที (65กิโลเมตร/ชั่วโมง, 40 ไมล์/ชั่วโมง) ![]() ![]() เบิร์จอัลอาหรับ
เบิร์จอัลอาหรับ (ภาษาอาหรับ: برج العرب , Burj al-Arab)เป็นโรงแรมหรูหราและเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก โดยมีความสูง 321 เมตร(1,053 ฟุต) โดยตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวเปอร์เซียโดยเชื่อมต่อกับฝั่งผ่านทางสะพาน เบิร์จอัลอาหรับเป็นเจ้าของโดย จูเมราฮ์การก่อสร้างเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2537แล้วเสร็จและเริ่มเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2542โดยตัวตึกออกแบบมีลักษณะคล้ายเรือใบ dhowซึ่งเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่งของชาวอาหรับ ส่วนห้องในโรงแรมเบิร์จอัลอาหรับมีลักษณะเป็นห้องสวีตคู่ 202 ห้องโดยห้องที่เล็กสุดมีขนาด 169 ตารางเมตร (1,819 ตารางฟุต)และห้องใหญ่สุดมีขนาด 780 ตารางเมตร (8,396 ตารางฟุต)และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่แพงที่สุดในโลกโดยราคาค่าที่พักอยู่เริ่มต้นที่ $1,000 -$15,000 ต่อคืนและห้องที่แพงสุดจะอยู่ที่ราคา $28,000 ต่อคืน ถนน Al Fahidi ถนน Al Fahidi ตั้งอยู่ใจกลางซุก Bur Dubaiเป็นศูนย์กลางร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ โฮมเธียร์เตอร์รวมไปถึงอุปกรณ์ถ่ายรูป ซึ่งเสนอขายในราคาย่อมเยาว์ Al Nasr Leisureand ตั้งอยู่บริเวณ Bur Dubai ห่างจากถนน Zabeelเป็นสวนสาธารณะที่ทันสมัยแห่งหนึ่งผุ้ชื่อชอบการเล่นกีฬาจะต้องถูกใจเป็นพิเศษ เพราะสวน Zabeel นี้มีทั้งลู่สำหรับโยนโบล์ลิ่ง พื้นน้ำแข็งราบสำหรับเล่นสเก๊ต และสระว่ายน้ำรวมไปถึงสวนสนุกสำหรับเด็ก เปิดทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น. Bait Al Wakeel สร้างขึ้นในปี 1934 โดยท่านชีคราชิด ซึ่งเป็นผู้ครองรัฐองค์ที่แล้วถือว่าเป็นตึกทางการแห่งแรกของดูไบโดยในปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงความเป็นมา และวิถีชีวิตของชาวประมง Bani Yas Square สิ่งที่เห็นได้ชัดในบริเวณ Bani Yas Square คือ หอ Deiraที่มีลักษณะยอดบนเป็นวงกลม บริเวณจัตุรัสจะมีสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องนุ่งหุ่ม และ สินค้าบริโภคทั้งหลายให้คุณต่อรองราคากันได้ พิพิธภัณฑ์ดูไบ ด้านในของพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นด้านบนและด้านล่างด้านบนจะเป็นแบบจำลองกำแพงหินและกระท่อมแบบชาวพื้นเมืองเก่าๆสำหรับด้านล่างหรือชั้นใต้ดินจะกว้างใหญ่และลึกลับซับซ้อนมากมีทั้งภาพวาดสีน้ำของดูไบในอดีตการจัดหุ่นนิ่งแสดงวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองมีการจำลองบรรยากาศใต้ทะเลโดยใช้แสงสีจำลอง ทำให้เห็นภาพของชาวดูไบในอดีตนอกจากนี้ ยังมีห้องแสดงความก้าวหน้าทางวิทยาการโบราณแบ่งซอยออกไปอีกโดยจัดแสดงพัฒนาการของตัวเลขและตัวอักษรอาระบิกรวมไปถึงการเรียนรู้วิชาดาราศาสตร์และเรื่องราวของทะเลทราย Bastakiya ย่าน Bastakiyaเป็นย่านที่เรียกได้ว่าเป็นย่านเมืองเก่าถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและ แกลอรี่ศิลปะ ของที่นี่เลยทีเดียว บริเวณดังกล่าวนี้เป็นเพียงทางแคบๆโดยมีหอกังหันลมตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ทำให้นึกย้อนไปในอดีตที่บริเวณBastakiya นี้มักจะเต็มไปด้วยหอกังหันลมตั้งเรียงรายอยู่บริเวณที่เรียกว่า The Creekซึ่งหอกังหันลมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยประดับประดาตกแต่งย่าน Bastakiyaให้สวยงามน่าชมแล้วยังช่วยให้บรรเทาความร้อนให้กับบ้านเรือนที่ตั้งอยู่แถวนั้นก่อนที่จะมีไฟฟ้าใช้อีกด้วย สวนสัตว์ดูไบ ถึงแม้ว่าสวนสัตว์ของดูไบ ที่ตั้งอยู่บนถนน Jumeirah Beach จะเล็กไปบ้างแต่เชื่อได้ว่าคุณต้องรู้สึกทึ่ง กับบรรดาสัตว์หลากหลายชนิดอาศัยที่อยู่ในนี้ เพราะนอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับนกนานาประเภทแล้ว คุณยังต้องรู้สึกตื่นเต้นไปกับสัตว์น้อยใหญ่ รวมไปถึงสัตว์ที่มาจากต่างประเทศด้วย ![]() Shiekh Zayed Road เทียบได้กับย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองแมนฮัตตัน เป็นเขตการค้าของเมืองล้อมรอบไปด้วยตึกสูงระฟ้า เป็นสถานที่ตั้งของตึก World Trade Centre และโรงแรม Emirates Tower The Creek เป็นจุดชมทิวทัศน์ มีลักษณะเป็นท่าเรือที่ตัดผ่านใจกลางเมืองซึ่งเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์และเป็นย่านชุมชนใน ดูไบ The Creekเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมวิวทิศทัศน์ยิ่งผู้ที่สนใจวัฒนธรรมและประเพณีของผู้คนชาติต่างๆจะต้องรู้สึกชื่นชมและประทับใจกับภาพทั้งสองฟากฝั่งโดยเฉพาะภาพที่นกนางนวลหลายร้อยตัวบินโฉบฉวัดเฉวียนผ่านเรือสัญจรหรือที่เรียกว่า เรือเดา (dhow)มีลักษณะเป็นเรือใบเสาเดียวทีชาวอาหรับใช้เป็นพาหนะที่แล่นผ่านไปมามีพระอาทิตย์ดวงกลมโตที่ค่อยๆ ลดแสงลง เป็นฉากหลัง คุณสามารถล่องเรื่อข้ามฟากชื่นชมสองฝั่งของดูไบได้ตรงท่าขึ้นเรือตรงข้ามกับโรงแรมคอนติเนนตัลในฝั่ง Deira และตรงข้ามกับซุกเก่าในเขต Bur Dubaiและที่กับภาพความสวยงามเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนที่สุดคือตรงจุดที่เรียกว่าabra ซึ่งเป็นทางเข้าทางน้ำเล็กๆ กั้นระหว่างซุก Deira กับด้าน Bur Dubaiและหากคุณล่องเรือไปจนสุดปลายอ่าวคุณจะเห็นทะเลสาบบนเกาะหินปะการังขนาดใหญ่และเป็นที่ตื้นเขินซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นที่อพยพของสัตว์ โดยเฉพาะนกที่ในฤดูหนาวจะอพยพมาตั้งหลักแหล่งในคราวเดียวกันถึง 27,000 ตัวโดยเฉพาะนกฟลามิงโกใหญ่ ![]() Wild Wadi ถัดจากโรงแรม Jumerah Beach ไปไม่ไกลนักคุณจะได้พบกับสวนน้ำติดอันดับหนึ่งของโลกที่มีขื่อว่า Wild Wadiที่นี่คุณจะได้พบกับเครื่องเล่นที่เร้าใจและสนุกสนานเพลิดเพลินแนะนำเครื่องเล่น Log River, Ring Ride, Flood River, Wave Pool, FlowRides และอื่นอีกมาก หมู่บ้านนักท่องเที่ยว Al Boom อยู่ติดกับสวนสาธารณะ Creekside คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับร้านขายอาหารคอฟฟี่ช็อป ภัตตาคาร และสวนสนุกมากมาย ท่ามกลางบรรยายกาศและวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบ และเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ที่จอดรอรับลูกค้า สถานที่ประวัติศาสตร์ หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชนชาติต่างๆคุณก็ต้องไม่พลาดที่จะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของดูไบเป็นที่ที่คุณสามารถพบเห็นเครืองมือเครื่องใช้ซึ่งเป็นผลผลิตที่เกิดจากมนุษย์จากยุคศตวรรษที่ 7 จนถึงศตวรรษที่ 15 นอกจากเที่ยวชมซุกและชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี รวมถึงสำรวจเมืองเรียบร้อยแล้วกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นของดูไบ ที่อยากท้าให้ลอง คือ การขี่ม้า ขี่อูฐและสำหรับท่านที่ชอบการออกรอบสนามตีกอล์ที่ดูไบนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟคุณภาพแห่งหนึ่งของโลก ที่อำนวยความครบครันในเรื่องของความสะดวกสบาย ความใหญ่โตและความสวยงาม ในบรรยากาศของท้องทะเลทราย ที่กว้างใหญ่แต่ไม่เวิ้งว้าง การเดินทาง สำหรับการทำวีซ่าดูไบนั้น ไม่สามารถยื่นเรื่องขอได้ที่สถานฑูตที่เมืองไทยต้องยื่นผ่านบริษัททัวร์หรือสายการบินเอมิเรสต์ใช้เวลาขั้นต่ำ ประมาณ 1อาทิตย์ และสามารถอยู่ได้ 1 เดือนเท่านั้นสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานสายการบินเอมิเรตส์กรุงเทพฯ โทร0-2664-1040-4 หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซดต์ www.emirates.com/th เอกสารสำหรับขอวีซ่า - หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริง มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปนับจากวันเดินทาง, มีหน้าวีซ่าเหลือมากกว่า 2 หน้าขึ้นไป ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก - skyscrapercity.com - th.wikipedia.org - adisatravel.com - pantip.com - thaiair.info |